วันนี้ (17 เม.ย.) ที่ สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ หนึ่งในครอบครัวของผู้เสียชีวิต จากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินถล่ม เข้ารับศพลูกชาย หลังแพทย์ได้ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์และเทียบเคียงดีเอ็นเอพบว่าตรงกับครอบครัว
นางบุญเส่ง มวลสุข แม่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ลูกชายเข้าทำงานก่อสร้างที่อาคาร สตง.ได้ประมาณ 1 เดือน ซึ่งหลังเกิดเหตุไม่ทราบว่าลูกชายเสียชีวิต จนเพื่อนบ้านมาบอก และเมื่อวันที่ 14 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดของลูกชาย ก็ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า พบร่างลูกชายติดอยู่ภายในซากตึก และวันนี้จะนำศพลูกชายไปบำเพ็ญกุศล ที่วัดโพธินิมิตรสถิตมหาสีมาราม ย่านบางยี่เรือ ก่อนจะนำกระดูกไปเก็บเอาไว้บ้านเกิด จ.ศรีสะเกษ
การตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว พล.ต.ต.วิรุฬห์ ศุภสิงห์ศิริปรีชา ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่า ได้ตรวจพิสูจน์ร่างผู้เสียชีวิต 42 คน และชิ้นส่วนมนุษย์ 96 ชิ้น ขณะนี้สามารถยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว 33 คน เป็นคนไทย 22 คน ชาวเมียนมา 10 คน และชาวกัมพูชา 1 คน ในจำนวนนี้ได้ส่งร่างคืนให้กับครอบครัวแล้ว 21 คน โดยส่วนใหญ่ใช้วิธีการตรวจจากดีเอ็นเอ เทียบเคียงจากญาติ 97 คน ที่ส่งข้อมูลมาให้ ร่วมกับลายพิมพ์นิ้วมือ
ส่วนการตรวจพิสูจน์ชิ้นส่วนมนุษย์ จะนำแต่ละชิ้นมารวมกันให้เป็นตัวบุคคล เพื่อตรวจดีเอ็นเอว่าตรงกันหรือไม่ แต่เนื่องจากเวลาผ่านมานาน และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงส่งผลให้เนื้อเยื่อ ได้รับความเสียหาย จึงใช้กระดูกในการหาดีเอ็นเอ ทำให้ต้องใช้เวลาในการตรวจเพิ่มขึ้น 2 วัน ก่อนจะนำข้อมูลของครอบครัวมาเปรียบเทียบ
ด้าน พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เปิดเผยว่า มีร่างผู้เสียชีวิตบางคนที่ไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลได้ เนื่องจากครอบครัวและญาติ อาศัยอยู่ที่ประเทศเมียนมา และไม่สามารถเดินทางมาให้ข้อมูล และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอได้ ทางกองพิสูจน์หลักฐานกลาง จึงจะประสาน สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง ให้เก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากญาติ เพื่อนำมาตรวจพิสูจน์อีกครั้ง
อ่านข่าว : คกก.สอบข้อเท็จจริงเผยปม “ออกแบบไม่สมมาตร” หนึ่งในสาเหตุ “ตึกถล่ม”
จับตา “จีน” ผนึกกำลัง “อาเซียน” รับมือกำแพงภาษีทรัมป์
“ณัฐพงษ์” หนุนรัฐบาลผนึกกำลังอาเซียน สร้างอำนาจต่อรองสหรัฐฯ